โกรธ เกลียด และรัก
ในชีวิตเรามันคงต้องมีสักครั้งที่ถูกคนที่เรา"คิดว่ารัก" ทำให้เราเสียใจ ไม่ว่าเรื่องจะเล็กจะใหญ่ก็ตามการที่ผิดหวังในความรักแล้ว สำหรับคนที่ผิดหวังย่อมรู้สึกว่ามันใหญ่หลวงเสมอ เมื่อรักมากก็แค้นมากไปเป็นของคู่กัน บางคนโกรธแค้นกันเป็นปีๆ เสียใจเป็นปีๆ เสียเวลาไปกับความโกรธ ความแค้นละความโมโห ถ้าเราหันมามองและวิเคราะห์ดูแล้ว จะเห็นว่าสิ่งที่เราโมโหนั้น อันที่จริงมันเป็นกลไลป้องกันตัวอย่างนึงของเรานั่นเอง เพราะว่าเราไม่อยากที่จะยอมรับว่าเรามองคนผิดไป เรารักคนผิดคน รักเค้าแต่ว่าเค้าก็ไม่ได้รักเราตอบเท่ากับที่เราให้ความรักกับเค้าไป ไม่มีใครหรอกค่ะที่อยากจะยอมรับว่าตัวเองนั้น พลาดไปเสียแล้ว คำว่าพลาดในที่นี้ คือพลาดมองคนไม่ออก (ไม่ใช่ให้แปลว่าพลาดท่าเสียทีนะจ้ะ) ใครละจะอยากยอมรับข้อบกพร่องของตน สิ่งที่เราแสดงออกเพื่อเป็นการป้องกันตัวเราเองก็คือการที่เราโกรธ อีกฝ่ายนึง แค้นอีกฝ่ายนึง ซึ่งนั่นก็คือกลไลที่จิตใจของเราใช้เพื่อกันตัวเราไม่ให้เสียใจมากไปแค่นั้น แทนที่เราจะว่าตัวเองให้มันเจ็บใจมากขึ้นไป defense mechanism ของเราก็สั่งการให้เราพุ่งความสนใจไปที่อีกฝ่ายนึง ก็แค่นั้นเองค่ะ
บางคนบอกกับตัวเองว่าเราไม่รักเขาแล้ว เพราะว่าเขาทำให้เราเจ็บปวด เราไม่สนใจเค้าแล้วไม่รักแล้วเราเหลือแต่ความโกรธ ความเกลียด ไม่อยากเจอหน้ากันอีกต่อไป .....ถ้ารำเพยบอกว่าคุณกำลังหลอกตัวเอง เพราะว่าอันที่จริงแล้วคุณก็ยังคิดถึงเขาอยู่ ..คุณจะเชื่อไหมคะ? คุณอาจจะไม่เชื่อ และเผลอๆก็บอกว่ารำเพยเอาอะไรมาพูด เกลียดเค้าจะแย่แล้วไม่ได้รักสักหน่อย .... เอ้า เชื่อไม่เชื่อลองอ่านดู
ความเกลียดกับความรัก ทุกคนก็คงบอกว่ามันเป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกันเหมือนขั้วบวกและขั้วลบหรือเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันมาบรรจบกันได้ แต่ถ้ามองให้ดีๆแล้ว ถ้าไม่มีความเกลียด ก็ย่อมไม่มีความรัก ....ถ้ามีความรัก...โอกาสที่จะเกลียดมันก็มี ถ้าคุณอยากจะบอกว่าคุณไม่รักแล้ว ไม่ได้รู้สึกรักแล้ว เหลือแค่ความเกลียด.... รำเพยขอถามว่า ถ้าคุณไม่รัก และเค้าก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับคุณ คุณจะไปเกลียดเค้าทำไมกันคะ คุณเกลียดเค้าไป เค้าก็ไม่ได้รับรู้อะไรด้วย สิ่งที่คุณรับรู้ มันก็มีอยู่แค่ในใจคุณนั่นแหละค่ะ ยิ่งเกลียดมากเท่าไหร่ ก็แสดงว่าคุณยังรักเค้าอยู่มากเท่านั้น
ถ้าเมื่อใดที่คุณไม่รู้สึกโกรธ หรือเกลียดอะไรกับคนที่เคยทำให้คุณเจ็บใจนั่นแหละค่ะถึงจะบอกได้ว่าคนๆนั้นไม่มีความสำคัญกับคุณแล้วจริงๆ